แจกข้อสอบการนวดไทย53/1

1. ทฤษฎีการนวดนั้นเกิดขึ้นจากอะไร

              ก. ฤๅษี หรือโยคี เป็นผู้ประดิษฐ์ท่านวดขึ้น                                                                                                        

                              ข. สัญชาตญาณของการอยู่รอดเมื่อมีอาการปวดเมื่อยหรือเจ็บป่วย

               ค. มนุษย์เลียนแบบท่าการเคลื่อนไหวของสัตว์เป็นท่านวด

               ง. นางคณิกาเป็นผู้ค้นท่านวดเพื่อเอาใจแขกที่มาเที่ยว

2.   รากฐานการนวดแผนโบราณ จากประเทศอินเดียได้แพร่หลายเข้า มาสู่ประเทศไทยเมื่อไร

               ก. สมัยทวาราวดี

               ข. สมัยสุโขทัย

               ค. สมัยอู่ทอง

               ง.ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด

3.  ตำราที่เป็นรากฐานของการนวดแผนโบราณไทยในปัจจุบันอยู่ที่ไหน

               ก. วัดราชโอรส

               ข. วัดพระเชตุพนฯ

               ค. วัดพระแก้ว

               ง. วัดสามพระยา

   4. ใครเป็นผู้ชำระตำราแผนนวดฉบับหลวง 

               ก. กรมหมื่นภูบดีราชหฤทัย

               ข. กรมหมื่นอักษรสาส์นโสภณ

               ค. หลวงประเสริฐ

               ง. ข้อ ก. ข. ค. ง. ถูก

5. ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการสอนวิชานวด ในโรงเรียนแพทย์ยาลัย นั้น สอนให้กับใคร

               ก. นักเรียนแพทย์

               ข. หมอนวดทั่วไป

               ค.หมอนวดในราชสำนัก

               ง. เจ้านายที่สนใจเรื่องนวด

6. ข้อไหนไม่ใช่ลักษณะการนวด

               ก. การดึง การดัด

               ข. การบิดการทุบ

ค. การเหยียบการสับ

ง. การหยิกการเขี่ยเส้น

7.  การนวดนานๆหรือหนักเกินไปมีผลเสียอย่างไร

               ก. ทำให้เส้นเลือดฉีกขาดช้ำเขียวบริเวณที่นวด

               ข. กระดูกหักหรือแตก

               ค. ข้อเคลื่อน

               ง. อาจเป็นอัมพาตได้

8. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง

                        ก. การดึงเป็นการยืดเส้นเอ็นของกล้ามเนื้อหรือพังผืด ของข้อต่อที่หดสั้นให้เข้าไปให้ยืดออก

                        ข. การเคลื่อนไหวของข้อต่อในผู้ใหญ่ย่อมเคลื่อนไหวได้ดีกว่าเด็ก

                        ค. การตบ ตี ทุบ เป็นการออกแรงกระตุ้นกล้ามเนื้ออย่างไม่เป็นจังหวะ

                        ง. การเหยียบเป็นท่านวดที่ไม่เป็นอันตราย

9.  ประโยชน์โดยตรงของการดัดคืออะไร

                        ก. เพื่อให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

                        ข. เพื่อให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว

                        ค. เพื่อนให้เลือดไหลเวียนดี

                        ง. เพื่อนให้ร่างกายลดการหดเกร็ง

10. การออกแรงกระตุ้นกล้ามเนื้ออย่างเป็นจังหวะนั้นเราใช้หลักการนวดแบบไหน

                        ก. การกด

                        ข. การคลึง

                        ค. การบิด

                        ง. การทุบ สับ ตบ ตี

11.  การนวดบริเวณที่นิ้วมือกดไม่ถึง หรือจุดนั้นต้องการ น้ำหนักมากเราควรใช้อวัยวะส่วนใดกด

                        ก. ฝ่ามือ

                        ข. ศอก

                        ค. ฝ่าเท้า

                        ง. เข่า

18.  กรณีใดที่หมอนวดพึงระมัดระวัง หรือไม่ควรนวด

                        ก. บริเวณที่มีการอักเสบอย่างเฉียบพลัน

                        ข. บริเวณกล้ามเนื้อลีบ

                        ค.บริเวณแขนขาที่ชา

                        ง. บริเวณกล้ามเนื้อที่มีอาการเกร็ง

19.  การที่จะเป็นหมอนวดและนวดได้อย่างปลอดภัยจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับอะไร

                        ก. จำท่านวดได้มากๆ

                        ข. สามารถดัดแปลงท่านวดได้มากๆ

                        ค. กายวิภาคและสรีรวิทยา

                        ง. อาการเจ็บป่วยของผู้มานวด

20.  กระดูกสันหลังส่วนเอวมีกี่ชิ้น

                        ก. มี 5 ชิ้น

                        ข. มี 6 ชิ้น

                        ค. มี 7 ชิ้น

                        ง. มี 8 ชิ้น

21.  ข้อใดในร่างกายที่หลุดได้ง่ายที่สุด

                        ก. ข้อสะโพก

                        ข. ข้อเท้า

                        ค. ข้อนิ้วมือ

                        ง. ข้อไหล่

22.โรคปวดข้อชนิดใดที่ผู้หญิงเป็นน้อยกว่าผู้ชาย

                        ก. โรคข้อเสื่อม

                        ข. โรครูมาตอยด์กระดูกซี่โครง

                        ค. โรคเก๊าต์

                        ง.  ข้อ ก.และ ค.

23.  ข้อไหนเป็นหน้าที่ ของกระดูก

                        ก.  สร้างเม็ดเลือดโดยไขกระดูก

                        ข.  เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักของร่างกาย

                        ค. เป็นที่เกาะของพังผืด เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ

                        ง. ข้อ ก. ข. ค. ถูก

24.  การเคลื่อนไหวของข้อต่อมีกี่อย่าง

                        ก. 2

                        ข. 3

                        ค. 4

                        ง. 5

25.  ข้อต่ออวัยวะส่วนไหนของร่างกายมีการเคลื่อนไหวแบบบานพับ

                        ก. ข้อศอก

                        ข. ข้อมือ

                        ค.ข้อไหล่

                        ง.ข้อเท้า

26.  ข้อต่อของอวัยวะส่วนไหนที่เคลื่อนไหวได้ 2 ระนาบ

                        ก. ข้อเข่า

                        ข. ข้อมือ

                        ค. ข้อศอก

                        ง. ข้อสะโพก

27.  ข้อต่อของอวัยวะส่วนไหนที่เคลื่อนไหวได้ทั้ง 3 ระนาบ

                        ก.ข้อมือ

                        ข.ข้อศอก

                        ค.ข้อเข่า

                        ง. ข้อสะโพก

28.  หมอนวดควรรู้เขารู้เรารู้รอบอยากทราบว่า “รู้เขา” นั้นคืออะไร

                        ก. รู้จุดที่เป็นอันตราย

                        ข.รู้ว่าโรคใดนวดหายหรือไม่หาย

                        ค. รู้เรื่องราวของผู้ถูกนวดเป็นอย่างดี

                        ง. ผิดทุกข้อ

29.  ข้อไหนอยู่ในคุณธรรม 10 ประการ

                        ก. ไม่โลภไม่เห็นแก่ลาภ

                        ข. ไม่ลุแก่อำนาจอคติ 4

                        ค.ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งทีเป็นโลกธรรม

                        ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

30.  การนวดมีกี่ลักษณะ

                        ก. 2

                        ข. 3

                        ค. 4

                        ง. 5

31.  พระบรมชีวกโกมารภัจจ์ ท่านได้กำหนดเส้นเอ็นที่เกี่ยวกระหวัดรัดร่างกายของคนเรา มีประมาณเท่าใด

                        ก. 27000 เส้น

                        ข. 72000 เส้น

                        ค. 72500 เส้น

                        ง. 27500 เส้น

32.  เส้นสุขุมังมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าอะไร

                        ก. อุรังกะ

                        ข. ลาวุสัง

                        ค. นันทะกะหวัด

                        ง. คิชฌะ

33.  ส่วนใดของสมองที่ควบคุมการหายใจ

                        ก. สมองส่วนหลัง

                        ข. สมองส่วนกลาง

                        ค. สมองส่วนหน้า

                        ง. ก้านสมอง

34.  โรคที่ไม่มีข้อห้ามในการอบสมุนไพรคือข้อใด

                        ก. ไข้ทับระดู

                        ข. ตกเลือด

                        ค. ความดันโลหิตสูง

                        ง.เบาหวาน

35.  ในเรื่องเส้นประธาน 10 เส้นอะไรที่เกี่ยวข้องกับนิ้วมือ และนิ้วเท้าทั้งสิบ

                        ก. กาลธารี

                        ข. สหัสรังษี

                        ค. ทวารี

                        ง. จันทภูสัง

36.  ตัวยาใดในลูกประคบมีรสร้อน

                        ก. การบูร

                        ข. เหง้าไพล

                        ค. พิมเสน

                        ง. ถูกทุกข้อ

37.  กระดูกส่วนไหนของร่างกายที่มักมีปัญหาการปวดเมื่อยมากที่สุด

                        ก. กระดูกขา

                        ข. กระดูกแขน

                        ค. กระดูกก้นกบ

                        ง. กระดูกสันหลังช่วงเอว

38.  อ่านบทกลอนต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

       อาจารย์ท่านพรรณ            แล่นออกมาแต่นาภี

กลับแตกแยกเป็นสี่                 สองเส้นนี้ผ่านขึ้นไป

ตามโครงสุดข้างละเส้น           ร้อยขึ้นเป็นสะบักใน

ทั้งซ้ายขวาตามนิสัย                แล่นขึ้นไปกำด้นพลัน

จากกลอนบทนี้กล่าวถึงเส้นประธานชื่ออะไร

ก.            อิทา

ข.            ปิงคลา

ค.            กาลธารี

ง.             สหัสรังษี

39.                            คำว่ากำด้นหมายถึงอะไร

ก.                 หัว

ข.                 ท้ายทอย

ค.                 กระดูกคอ

ง.          ไหปลาร้า

40.                            กำเริบให้คิลาน์ ย่อมเย็นชาเหน็บไปทั้งตัว คำว่าคิลาน์หมายถึงอะไร

ก.   คนเจ็บ

ข.   เส้นเอ็น

ค.   กล้ามเนื้อที่เป็นเหน็บชา

ง.    ถูกทุกข้อ

41.  เกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ข้อความใดไม่ถูกต้อง

               ก.  ยาวประมาณ 1.5 เมตร

ข.  พาดจากขวาไปซ้าย

ค.  ติดต่อกับลำไส้เล็ก

ง.  ทำหน้าที่ดูดซึมน้ำและอาหาร

42.  ข้อใดเป็นโทษของการนวดที่ผิด

                  ก. ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง

                  ข. ทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น

                  ค. ทำให้เสียความรู้สึกกับการนวด

                  ง. ทำให้ เอ็น กล้ามเนื้อ พังผืด เกิดการ ชอกช้ำฟกบวม           

55.-56 จากภาพเส้นประธาน จากแผนการนวด วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

59.  การนวดเมื่อออกแรงกดนวดหรือใช้น้ำหนักกดควรมีจังหวะหายใจอย่างไร

                  ก.  หายใจออกเสมอ

                  ข.  หายใจเข้าเสมอ

                  ค.  กลั้นหายใจ 1 อึดใจ

                  ง.  หายใจอย่างไรก็ได้

60.  ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดอาการปวดหลังปวดเอวได้แก่อะไร

                        ก.  การอยู่ในอิริยาบถ ที่ไม่เหมาะสม

                        ข.  การออกแรงที่ไม่เหมาะสม

                        ค.  ท่าทางในการยกของหนักที่ไม่เหมาะสม

                        ง.  ข้อ ก. ข. ค. ถูก

61.  ข้อใดไม่ใช่กระดูกรยางค์

                        ก.  สะบัก

                        ข.  ไหปลาร้า

                          

 ค.  กระดูกซี่โครง

                        ง.  กระดูกเชิงกราน

62.  เส้นเลือดในสมองตีบตัน เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้เป็นเวลาเท่าไร จึงจะทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาต

                        ก.  เกิน 5 นาที

                        ข.  เกิน 6 นาที

                        ค.  เกิน 7 นาที

                        ง.  เกิน 8 นาที

63.  ถ้าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบตันชั่วคราว 2-3 นาทีแล้วคลายไป เลือดไป เลี้ยง สมองได้ใหม่ การทำงานของแขนขาจะคืนภายใน 24 ชม.อาการอย่างนี้เรียกว่าอะไร

                        ก.  อัมพฤกษ์

                        ข.  อัมพาต

                        ค.  ปลายประสาทเสื่อม

                        ง.  แขนขาชาชั่วคราว

64.  อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และเอ็นรอบๆสะบัก เป็นอาการของอะไร

                        ก.  ไหล่ติด

                        ข.  คอตกหมอน

                        ค.  สะบักจม

                        ง.  หลังอักเสบ

65.  สิ่งสำคัญของธรรมชาติบำบัดคืออะไร

                        ก.  พลังชีวิต

                        ข.  พลังจากดวงอาทิตย์

                        ค.  พลังจักรวาล

                        ง.  พลังจากอากาศบริสุทธิ์

66.  ถ้ามีการกดเจ็บบริเวณฝ่าเท้าหมายถึงอะไร

                        ก.  อวัยวะตรงตำแหน่งนั้นมีปัญหา

                        ข.  บริเวณนั้นไม่สามมารถ นวดได้

                        ค.  รักษาตำแหน่งนั้นให้หายจึงนวดได้

                        ง.  ต้องนวดเน้นตรงจุดนั้นให้มากๆ

67.  ผลของไอน้ำที่ได้จากการอบสมุนไพร มีผลดีต่อร่างกายอย่างไร

                        ก.  ช่วยทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง

                        ข.  ช่วยลดการอักเสบ และบวมของข้อต่อ

                        ค.  ช่วยในการขับพิษร้อนและถอนพิษไข้

                        ง.  ทำให้ร่างกายขับเหงื่อมากขึ้น ขยายรูขุมขน

68.  โรคที่ไม่มีข้อห้ามในการใช้สมุนไพรคือข้อใด

                        ก.  ไข้ทับระดู

                        ข.  ตกเลือด

                        ค.  ความดันโลหิต

                        ง.  เบาหวาน

69.  ข้อใดเป็นสมุนไพรที่มีสารระเหิดอยู่และมีกลิ่นหอม

                        ก.  ไพล

                        ข.  เหง้าขมิ้น

                        ค.  การบูร

                        ค.  ว่านนางคำ

70.  ยาใดต่อไปนี้มีมหาหิงคุ์เป็นส่วนประกอบ

                        ก.  ยาดองกษัย ลมพานลำไส้

                        ข.  ยาแก้ลมพัดในลำไส้

                        ค.  ยาประสะการบูร

                        ง.  ยาบำรุงโรหิต

71.  สมุนไพรที่มีรสเปรียว ที่นำมาใช้ในการอบสมุนไพร มีประโยชน์อย่างไร

                        ก.  ช่วยขยายหลอดลม

                        ข.  ช่วยลดอาการฟกบวม

                        ค.  ช่วยชำระสิ่งสกปรกออกจากผิวหนัง

                        ง.  ช่วยรักษาโรคผิวหนัง

72.  ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ควรใช้ระยะเวลาการอบสมุนไพรนานเท่าใด

                        ก. ใช้ความร้อนต่ำๆทำวันเว้นวัน ๆละ 1 ชม.

                        ข.  ใช้ความร้อนต่ำๆทำทุกวัน ๆละ 1 ชม

                        ค.  ใช้ความร้อนค่อนข้างสูงทำทุกวัน ๆละ 1 ชม.

                        ง.  ใช้ความร้อนค่อนข้างสูงทำวันเว้นวัน ๆละ 1 ชม.

73.  การใช้สมุนไพรควบคู่กับการนวดไทยนั้น มีวิธีใช้อย่างไร

                        ก.  ใช้ลูกประคบสมุนไพรหลังจากการนวดเรียบร้อยแล้ว

                        ข.  ใช้ลูกประคบสมุนไพรก่อนการนวดทุกครั้ง

                        ค.  ใช้ลูกประคบสมุนไพร สลับกับการนวด

                        ง.  ใช้ลูกประคบสมุนไพรแทนการนวด

74.  ข้อใดเป็นตัวยาหลักในการทำลูกประคบ

                        ก.  เหง้าขมิ้น

                        ข.  เหง้าไพล

                        ค.  ผิวมะกรูด

                        ง.  เถาเอ็นอ่อน

75.  หลักเภสัชไทยที่หมอนวดควรเรียนรู้นั้นมีหลักสำคัญกี่ประการ

                        ก.  3

                        ข. 4

                        ค. 5

                        ง. 6

76.  ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง

                        ก.  มหาภูตรูป 4 ประกอบด้วย ปิตตะ วาตะ เสมหะ

                        ข.  อุปาทายรูปหมายถึงรูปที่อาศัย มหาภูตรูปเป็นแดนเกิด

                        ค.  สังขาร คือ ความรู้สึกทุกข์สุขหรือเฉยๆ

                        ง.  วิญญาณ คือ เครื่องปรุงแต่งแห่งจิต

77.  ข้อใดเป็นปถวีธาตุ

                        ก.  เมโท

                        ข.  นหารู

                        ค.  ลสิกา

                        ง.  วสา

78.  รากฐานของการเจ็บป่วยที่มาจากวาตะ มักมีอาการอย่างไร

                        ก.  มักมีไข้อักเสบ ขมในปาก

                        ข.  ไอ มีเสมหะ หลอดลมอักเสบ

                        ค.  ปวดแสบหน้าอก ปวดท้องหลังอาหาร

                        ง.  ปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

79.  ถ้ามีอาการสะบักจม ร่วมกับปวดไหล่ และแขน ควรนวดส่วนไหนก่อน

                        ก.  นวดหลัง

                        ข.  นวดสะบัก

                        ค.  นวดโค้งคอ

                        ง.  นวดส่วนแขนและไหล่ก่อน

80.  สำหรับผู้ที่เป็นตะคริวขณะเข้านอน กลางคืน เรามีข้อแนะนำอย่างไร

                        ก.  ดื่มน้ำอุ่น ๆ ก่อนนอน และนอนยกขาให้สูง

                        ข.  ดื่มนม และนอนยกขาสูงประมาณ 4 นิ้ว

                        ค.  ดื่มน้ำผลไม้และนอนให้ปลายขาต่ำ

                        ง.  ดื่มยาดองก่อนนอน และปล่อยขาให้ต่ำ

81.  ใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 หมายความว่าอย่างไร

                        ก.  ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ

                        ข.  ใบอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะ

                        ค.  ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ

                        ง.  ใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ

82.  ผู้เสียหายมีสิทธิกล่าวหาผู้ประกอบโรคศิลปะที่ไม่แจ้งวิธีการประกอบโรคศิลปะให้ตนทราบ    ภายในระยะเวลากี่ปี

                        ก.  1 ปี นับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องและรู้ตัวผู้ประพฤติผิด

                        ข.  2 ปี นับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องและรู้ตัวผู้ประพฤติผิด

                        ค.  1 ปี นับแต่วันที่มีการประพฤติผิดเกิดขึ้น

                        ง.  2 ปี นับแต่วันที่มีการประพฤติผิดเกิดขึ้น

83.  วิชาชีพใดที่ถือเป็นสาขาหนึ่งของการประกอบโรคศิลปะ

                        ก.  เทคนิคการแพทย์

                        ข.  กายภาพบำบัด

                        ค.  กายอุปกรณ์

                        ง. ถูกทุกข้อ

84.  นายเก่งอยู่ระหว่างการยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะการแพทย์แผนไทย ได้จัดพิมพ์นามบัตรระบุว่าตนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย รับรักษาโรคทั่วไป ด้วยยาสมุนไพรการกระทำของนายเก่ง มีความผิดหรือไม่

                        ก.  ไม่ผิดเพราะยังไม่มีการประกอบโรคศิลปะ

                        ข.  ไม่ผิดเพราะไม่ได้โฆษณาโอ้อวดความสามารถ

                        ค.  ผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

                        ง.  ผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

85.  การนำศาสตร์หรือความรู้ จากต่างประเทศเข้ามาทำการประกอบโรคศิลปะในประเทศไทย

       สามารถกระทำได้หรือไม่

ก.    ไม่ได้เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับในประเทศไทย

ข.    ไม่ได้เพราะศาสตร์ต่างประเทศยังไม่มีสาขาในประเทศไทย

ค.    ได้ ถ้ารัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการออกหนังสืออนุญาตให้ทำการประกอบโรคศิลปะ

ง.     ได้ถ้าคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะรับรอง

86.  การลงโทษเบาสุดในกรณีผู้ประกอบโรคศิลปะกระทำผิดตามคำกล่าวหา กล่าวโทษ คือ

               ก.  เปรียบเทียบปรับ

ข.  ว่ากล่าวตักเตือน

ค.  ภาคทัณฑ์

ง.  ทัณฑ์บน

87.  ข้อใดที่ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวิชาชีพ

                        ก.  เพิกถอนใบอนุญาตในกรณีที่ผู้ประกอบโรคศิลปะขาดคุณสมบัติ

                        ข.  แจ้งหรือโฆษณาข่าวสารด้วยวิธีใดๆเพื่อมิให้ประชาชนหลงเข้าใจผิด

                        ค.  เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด

                        ง.  ส่งเสริม พัฒนา และกำหนดมาตรฐาน การประกอบโรคศิลปะ

88.  การประกอบโรคศิลปะหมายถึง

                        ก.  การประกอบโรคศิลปะที่กระทำโดยตรงต่อมนุษย์ในการสร้างเสริมสุขภาพ

                        ข.  การประกอบโรคศิลปะที่มุงหมายกระทำต่อมนุษย์ในการส่งเสริมสุขภาพ

                        ค.  การประกอบวิชาชีพที่กระทำต่อมนุษย์ในการสร้างเสริมสุขภาพ

                        ง.  การประกอบวิชาชีพที่กระทำหรือมุ่งหมายจะกระทำต่อมนุษย์ในการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพ

89.  ข้อใดไม่ใช่อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่

                        ก.  เข้าไปในสถานที่ของผู้ประกอบโรคศิลปะระหว่างเวลาทำการ

                        ข.  เข้าไปในสถานที่ ๆมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำผิดระหว่างเวลาทำการ

                        ค.  ตรวจค้นยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

                        ง.  เข้าไปในสถานที่ที่มีเหตุอันควรว่ามีการกระทำผิดในระหว่างอาทิตย์ขึ้นถึงอาทิตย์ตก

90.  ผู้ประกอบโรคศิลปะที่ถูกสั่งเพิกถอนเพิกถอนใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อใคร ภายในกี่วัน

ก.  รัฐมนตรีว่าการ, 30วัน นับแต่วันที่เพิกถอน

ข.  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, 30 วันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง

ค   คณะกรรมการประกอบโรคศิลปะ, 30 วันนับแต่ทราบคำสั่ง

ง.  คณะกรรมการวิชาชีพ, 30 วัน นับแต่วันที่เพิกถอน

91.  ผู้ใดผลิตหรือขายยา ซึ่งมิได้ขึ้นทะเบียน ตำรับยาต้องระวางโทษอย่างไร

                        ก.  จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                        ข.  จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                        ค.  จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 3000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                        ง.  จำคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 5000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

92.  ตามกฎหมายว่าด้วยยายาสมุนไพร หมายความว่าอย่างไร

                        ก.  ยาที่รัฐมนตรี ประกาศเป็นยาสมุนไพร

                        ข.  ยาที่รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับเป็นยาสมุนไพร

                        ค.  สมุนไพรที่ ที่ยังมิได้มีการปรุงแต่ง หรือแปลสภาพ

                        ง.  ยาที่ได้จากพฤกษชาติ สัตว์ หรือแร่ ซึ่งมิได้ผสมปรุง หรือแปลสภาพ

93.  บุคคลใดที่มีอำนาจในการ อนุญาตให้ผลิตยาแผนโบราณในจังหวัดเชียงใหม่

                        ก.  เลขาคณะกรรมการอาหารและยา

                        ข.  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่

                        ค.  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

                        ง.  ผู้อำนวยการกองควบคุมยา

94.  ข้อใดเป็นหน้าที่ ของคระกรรมการอาหารและยาตามกฎหมายว่าด้วยยา

                        ก.  การอนุญาตผลิตยา ขายยา

                        ข.  การกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไข เกี่ยวกับการทำยามาเป็นตัวอย่างเพื่อตรวจ

                        ค.  การบังคับใช้ใบอนุญาต

                        ง.  ให้คำแนะนำรัฐมนตรี ในการออกประกาศกำหนดยาที่เป็นยาแผนโบราณ

95.  นายเก่ง ได้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณ แล้วนายเก่งไม่สามรถกระทำการในเรื่องใดโดยไม่ต้องขออนุญาตอีก

                        ก.  ขายยาสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาอันตราย

                        ข.  ขายยาแผนโบราณ

                        ค.  นำเข้าหรือสั่งยาแผนโบราณเข้ามาในราชอานาจักร

                        ง.  ถูกทุกข้อ